เป็นที่ทราบกันดีว่า “เห็ดหอม” นั้นเป็นเห็ดที่มีมากในเมืองไทยของเรา โดยส่วนใหญ่จะนำไปใช้ปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ เพราะว่าเห็ดหอมนั้นมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไม่ได้มีดีแค่นำมาปรุงอาหาร แต่ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ที่หลายๆคนไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้เราจึงหยิบเคล็ดลับดีๆที่ได้จากเห็ดหอม เมื่อเรากินเข้าไป ว่าแต่จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
มีสารอาหารเเละเเร่ธาตุอะไรบ้างอยู่ในเห็ดหอม
ลองมาเช็คประโยชน์เบื้องต้นกันดีกว่าค่ะว่า ภายในเห็ดหอมรสสัมผัสหนึบหนับที่คุณชอบรับประทานนั้นมีสารอาหารหรือเเร่ธาตุสำคัญอะไรบ้าง
โพเเทสเซียม หนึ่งในเเร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายต้องการจำเป็นต่อการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของระบบกล้ามเนื้อเเละประสาท จึงช่วยให้หัวใจเเละระบบประสาททำงานได้ดีไปด้วย
ซีลีเนียม เเร่ธาตุที่ช่วยออกฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งเเละโรคต่างๆ ในผู้สูงอายุเช่น โรคหัวใจเเละหลอดเลือดเป็นต้นค่ะ
เหล็ก สารอาหารอย่างธาตุเหล็กถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญในเม็ดเลือดเเดง เเละเอนไซม์ต่างๆ ภายในร่างกายหรืออย่างทองเเดง ที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง เเละทองเเดงก็ยังมีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดเเดง อีกด้วยล่ะค่ะ
เห็ดหอมช่วยเสริมสร้างกระดูกให้เเข็งเเรง
ในเห็ดหอมอุดมไปด้วยวิตามินดี ที่มีส่วนช่วยในการดูดซึมเเคลเซียมเเละฟอสฟอรัส ในการนำไปบำรุงกระดูกเเละฟันให้มีความเเข็งเเรง ดังนั้นหากจะกล่าวว่าการรับประทานเห็ดหอมเป็นประจำดีต่อกระดูกก็คงไม่ผิดเเน่นอนค่ะ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาเเน่นของกระดูก ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับกระดูกได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ
เห็ดหอมช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล
ภายในเห็ดหอมมีสารตัวหนึ่งที่ชื่อ สารอิริตาดีนีน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีอยู่ในเห็ดหอม มีประโยชน์ในการช่วยลดระดับคอเรสเตอรอลในเลือดได้ เเละยังมีสารสเตอรอลที่ช่วยในการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ได้เป็นอย่างดี ผลการศึกษาภายในประเทศญี่ปุ่นเองก็ระบุว่าเห็ดหอมส่งผลให้คอเรสเตอรอลชนิด LDL ลดลง เเละยังพบว่าเส้นใยที่มีอยู่ปริมาณสูงในเห็ดหอมนั้นจะช่วยดูดซับเเละขัดขวางการดูดซึมไขมันในทางเดินอาหารได้อีกด้วย
เห็ดหอมช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ภายในเห็ดหอมมีสารเบต้ากลูแคนที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้เเข็งเเรง อีกทั้งจากการศึกษายังพบอีกว่าการรับประทานเห็ดหอมวันละ5-10กรัมติดต่อกันประมาณ 4 สัปดาห์จะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มทำงานได้ดีขึ้น
เห็ดหอมดีต่อสุขภาพหัวใจ
หัวใจถือเป็นอวัยวะที่สำคัญมากเลยนะคะ เเละยังเป็นอวัยวะส่วนที่ทั้งเเข็งเเรงเเละดูจะบอบบางที่สุดในเวลาเดียวกัน ในเห็ดหอมมีเเร่ธาตุสำคัญอย่าง ทองเเดง อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนเเต่มีส่วนสำคัญต่อระบบไหลเวียนของเลือดในร่างกาย เเละยังช่วยป้องกันการหดตัวของหลอดเลือด เเละลดความดันโลหิตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ
กินเห็ดหอมช่วยต่อต้านมะเร็ง
ภายในเห็ดหอมมีสารเลนทิเเนน ทำหน้าที่เป็นพอลิเเซกคาไรด์ที่มีคุณสมบัติสำคัญในการต้านการเกิดมะเร็งด้วยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตเเละการเเพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว การรับประทานเห็ดหอมจึงมีส่วนในการต้านการการเกิดมะเร็งเเละส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ
เห็ดหอมช่วยบำรุงผิวพรรณ
สาวๆต้องลองหาเห็ดหอม หรือเห็ดชิตาเกะมารับประทานกันเเล้วล่ะค่ะ เพราะเห็ดหอมนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสะที่ช่วยปรับปรุงสภาพผิวของเรา รวมไปถึงวิตามินบีที่อยู่ภายในเห็ดหอมนั้นช่วยบำรุงผิว โดยการช่วยฟื้นฟูผิวจากการโดนเเสงเเดดทำร้าย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร หรือเเม้เเต่เเร่ธาตุสำคัญอย่างซิลีเนียมที่อยู่ภายในเห็ดหอมก็ยังมีส่วนช่วยในการรักษาสิวตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี
เห็ดหอมช่วยลดความเครียด
ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับภาวะความเครียดเเล้วล่ะก็ มารับประทานอาหารจากเมนูเห็ดหอมกันดีกว่าค่ะ เนื่องจากวิตามินบีในเห็ดหอมจะช่วยปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เกิดความสมดุล ช่วยลดภาวะความเครียด เเละกระตุ้นให้ร่างกายนั้นเกิดอาการตื่นตัว วิตามินบีรวมที่พบมากในเห็ดหอมก็ยังช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทได้อีกด้วย ด้วยสาเหตุนี้เองล่ะค่ะเห็ดหอมจึงเป็นอาหารที่ช่วยลดความเครียดได้ ทานเข้าไปเเล้วจะช่วยให้นอนหลับได้สนิทมากขึ้นนั่นเองค่ะ
กินเห็ดหอมเเล้วดีต่อระบบย่อยอาหาร
เห็ดหอมในปริมาณ 100 กรัมให้ใยอาหารที่มีประโยชน์ 2.5 กรัม ใยอาหารเองก็มีส่วนสำคัญในการช่วยล้างสารพิษในระบบย่อยอาหาร ช่วยให้คุณได้บอกลาปัญหาท้องผูก รวมถึงภายในเห็ดหอมมีกรดอะมิโนที่สำคัญถึง 8 ชนิด มีกรดที่ชื่อว่า ไลโนเลอิค ซึ่งเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยเพิ่มการย่อยอาหาร เเละนำไปสู่การช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยนั่นเองค่ะ
จะเห็นได้ว่า จากที่เราได้เห็นประโยชน์ของเห็ดหอมกันไปแล้วนั้น ทำให้รู้ได้ว่าเห็ดหอม ที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆนั้น มีประโยชน์มาก ไม่ว่าประโยชน์ทางยา ทางอาหาร แถมยังสามารถนำไปแปรรูปให้อยู่ได้นาน หากใครรู้แล้ว อย่าลืมนำไปกินกันบ่อยๆนะคะ