เมื่อพูดถึงปัญหาทางการเงินที่ทุกคนต้องเผชิญหน้า และมักเข้าสู่วงจรที่มักแก้กันไม่ตกอยู่บ่อยครั้ง นั่นก็คือ “การเป็นหนี้” ซึ่งสมัยปัจจุบันนี้มีแนวโน้มที่จะเป็นหนี้ได้ง่ายขึ้น เพราผู้คนมีการใช้จ่ายเกินตัว และได้รับรายได้น้อยกว่ารายจ่ายที่จ่ายออกไป ซึ่งวันนี้เราก็ได้นำความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลดหนี้สินแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
บทความนี้ได้รวบรวม 5 วิธีปลดหนี้ที่ได้ผลจริงไว้ ดังต่อไปนี้
1. ยอมรับความจริง
หลายคนเมื่อเป็นหนี้จะรู้สึกอับอายไม่กล้ายอมรับความจริง และพยายาม
ปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าตนเองมีภาระต้องรับผิดชอบ มีการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เหมือนปกติ เช่น เพื่อนชวนไปสังสรรค์ก็ไม่กล้าปฏิเสธ หรือออกไปเที่ยวทุกเดือน
ทั้งๆที่มีรายได้ไม่เพียงพอในแต่ละเดือน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้มีค่า
ใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นหนี้ที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
หากต้องการปลดหนี้ตัวเองสักที เราควรเริ่มต้นจากการตระหนักว่า ตัวเองมี
ภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ มีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น และไม่อายที่จะบอกใคร
ว่าตนมีภาระ เมื่อยอมรับความจริงเหล่านี้ได้ เราจะเห็นปัญหาและช่วยให้เรา
ตั้งต้นจัดการกับห นี้สินต่างๆ อย่างจริงจังและหลีกเลี่ยงการก่อห นี้เพิ่มเติมได้
และหากคนรอบข้างรับรู้ เชื่อว่าหลายคนจะเข้าใจและพยายาม
หาลู่ทางปลดหนี้ช่วยเรา
2. สำรวจหนี้สินทั้งหมด
เคล็ดลับหรือวิธีปลดหนี้ตัวเองข้อสำคัญ คือการสำรวจหนี้สินทั้งหมดของ
ตัวเองที่มีอยู่ ซึ่งประโยชน์ของการสำรวจหนี้สินช่วยให้เราเห็นขนาดของ
ภาระที่แท้จริงว่ามีขนาดใหญ่แค่ใหน และเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เตือนตัวเอง
ว่าไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม และทำให้เรามองเห็นปัญหาและหาทางจัดการแก้ไขต่อไป
ตารางสำรวจหนี้สินจากตารางสำรวจหนี้ทั้งหมดนี้ จะทำให้เรารู้ว่าตอนนี้เรามี
ภาระหนี้ทั้งหมดเท่าไร และภาระที่ต้องชำระต่อเดือนคือเท่าไร รวมทั้ง
การระบุอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาผ่อนชำระที่เหลือจะช่วยให้เราสามารถ
วางแผนว่าควรปิดหนี้ตัวใดก่อนเพื่อลดภาระหนี้สินต่อเดือนหรือลดอัตราดอก
เบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดสัญญา
3. จัดลำดับการปิดหนี้สิน
เมื่อสำรวจหนี้สินทั้งหมดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว วิธีการปลดหนี้ลำดับต่อมา
คือการจัดลำดับการปิดหนี้สิน ซึ่งเกณฑ์ในการจัดลำดับก็มี 2 วิธี อยู่ด้วยกัน
ได้แก่ ปิดหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน หรือปิดหนี้ที่เหลือระยะ
เวลาผ่อนน้อยก่อนการปิดหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดก่อน เป็นวิธีการ
ที่หลายๆ คนทราบเป็นอย่างดี เพราะยิ่งปิดได้เร็วเท่าไรก็หมายความว่าดอก
เบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดการผ่อนลดลงไป และสำหรับการปิดหนี้ที่เหลือระยะ
เวลาผ่อนน้อยก็จะช่วยปิดยอดนี้นั้นไปก่อนและมีเงินเหลือสำหรับปิดหนี้ตัว
อื่นได้เร็วขึ้น หรือมีเงินเหลือสำหรับเองและลงทุนสร้างความมั่นคงทางการ
เงินในอนาคตได้อีกด้วย
ลำดับการปิดหนี้
หนี้สินที่ควรปิดก่อนส่วนมากจะเป็นหนี้สินระยะสั้น เช่น หนี้บัตรเครดิต
และสินเชื่อส่วนบุคคล เพราะเป็นหนี้สินที่มีระยะเวลาผ่อนชำระไม่มาก
และมีดอกเบี้ยสูง การจัดการกับหนี้เหล่านี้จะช่วยลดจำนวนเจ้าหนี้ของ
เราลงได้ และระงับการแบ่งบานดอกเบี้ยได้อีกด้วย
นอกจากนี้หากรู้ว่ากำลังจะมีเงินก้อนใหญ่ เช่น โบนัส หรือเงินคืนภาษี
ก็สามารถนำเงินจำนวนนี้ไป “โปะ” หนี้ที่ดอกเบี้ยสูงให้หมดไวๆ ได้
4.วางแผนชำระหนี้อย่างเป็นระบบ
เคล็ดลับข้อนี้ คือการวางแผนชำระหนี้สินอย่างเป็นระบบและรอบคอบ
ซึ่งนอกจากเราจะนำเคล็ดลับปิดห นี้ที่ดอกเบี้ยสูงก่อนมาใช้แล้ว เราต้อง
วางแผนให้สัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยเพื่อให้เรายังสามารถ
ใช้ชีวิตได้เป็นปกติไม่ลำบาก และมีโอกาสสร้างความมั่นคงทางการเงิน
แม้จะมีหนี้สินทั้งนี้ก่อนจะวางแผนเราต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อน นั่นคือการ
ทำบัญชีรายรับ –รายจ่ายส่วนตัว เพื่อให้เรารู้ว่าในแต่ละเดือนมีรายจ่าย
อะไรบ้าง แบ่งเป็นรายจ่ายจำเป็นและรายจ่ายไม่จำเป็น จากนั้นเราจึงจัด
สรรรายได้แบ่งมาชำระหนี้สินตามลำดับที่ควรชำระก่อนและเก็บออม
แผนรายจ่ายรวมการชำระหนี้
การวางแผนรายจ่ายที่รวมภาระห นี้สินเข้าไปด้วย จะช่วยให้เราจัดการ
กับห นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิ ดชอบ
จะเห็นว่ามีเงินส่วนที่จัดสรรสำหรับการออมไว้ก่อนที่จะใช้จ่าย และนำเงิน
ไปใช้จ่ายส่วนที่จำเป็นก่อน จากนั้นจึงนำมาชำระห นี้สิน เมื่อเหลือจึงค่อย
ใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไ ม่จำเป็น เช่น รายจ่ายเพื่อความบันเทิง เป็นต้น การวาง
แผนงบประมาณเช่นนี้ยังช่วยให้คุณเก็บเงินและคุมรายจ่ายได้ ลดโอกาส
ก่อหนี้เพิ่มได้อีกด้วยอย่างไรก็ตาม ตัวอย่างข้างต้นถือเป็นตัวอย่างที่มีภาระหนี้
ต่อเดือนมากเกินไป เพราะภาระหนี้ที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 40% ของรายได้
ต่อเดือน ดังนั้น ภาระหนี้ข้างต้นมีแนวโน้มที่จะผ่อนไม่ได้ตามสัญญาหรือ
มีแนวโน้มเป็นหนี้เพิ่มได้ ซึ่งถ้าใครกำลังเผชิญปัญหาเช่นนี้ ต้องรีบคุยไกล่
เกลี่ยกับเจ้าหนี้โดยด่วน
5. ติดต่อกับธนาคารหรือเจ้าหนี้
เคล็ดลับข้อนี้เป็นวิธีปลดห นี้สำหรับผู้ที่มีภาระห นี้สินหนักเกินไปและการ
เงินขาดสภาพคล่อง สำหรับหลายๆ คนที่กำลัง “จม” ห นี้สินอยู่จนไม่
สามารถสะสางภาระเหล่านี้ได้ การเข้าไปขอคำปรึกษาหรือเจรจาไกล่เกลี่ย
หนี้กับธนาคารหรือเจ้าห นี้คือสิ่งจำเป็นธนาคารหรือเจ้าหนี้ที่ไม่ใช่ธนาคาร
(Non-bank)ก็ต้องการเงินคืนอยู่แล้ว ถ้าเราเผชิญหน้ากับปัญหาไปเลย
บอกเขาว่าสถานะการเงินของเรากำลังมีปัญหา ไม่สามารถผ่อนชำระได้
ตามสัญญา ธนาคารก็จะช่วยเราหาแนวทางแก้ไข ซึ่งเราสามารถขอไกล่
เกลี่ยหนี้สินได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
ขอลดดอกเบี้ยชั่วคราว
เมื่อสภาพการเงินของเราเริ่มมีปัญหาหนัก ไม่สามารถผ่อนชำระหนี้สิน
ทุกรายการได้ จนอาจต้องไปกู้เงินจากแหล่งอื่นหรือกู้เงินนอกระบบมา
เพื่อชำระคืน เพราะกลัวเสียเครดิต การขอลดดอกเบี้ยชั่วคราวจะช่วย
ลดภาระผ่อนมากยิ่งขึ้น
ขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยชั่วคราว
วิธีนี้ก็คล้ายกับการขอลดดอกเบี้ย แต่วิธีนี้จะขอผ่อนแค่ดอกเบี้ยโดย
ไม่ตัดเงินต้นแม้แต่น้อย วิธีนี้ทำให้ภาระผ่อนของเราลดลง ซึ่งเหมาะสำหรับ
คนที่ต้องการนำเงินส่วนที่เหลือไปจัดการหรือปิดหนี้ก้อนอื่นที่คิดอัตราดอก
เบี้ยแพงกว่าหรือสามารถปิดได้ในไม่กี่เดือนอย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ควรทำ
เพียงชั่วคราวเพราะเงินที่เสียไปก็เป็นแค่ดอกเบี้ยเท่านั้น หนี้สินไม่ได้ลดลง
ขอหยุดชำระห นี้ เมื่อเข้าตาจนจริงๆ ให้แจ้งกับธนาคารหรือเจ้าห นี้ว่าเราไ ม่
สามารถชำระห นี้สินได้ และขอหยุดจากนั้นเราต้องกลับมาดูแลสุขภาพการเงิน
ของตัวเองให้ดีขึ้นและต้องเตรียมเงินจำนวนหนึ่งไว้สำหรับชำระคืนเมื่อกลับ
มาผ่อนอีกครั้ง ทั้งนี้วิธีการนี้ค่อนข้างทำได้ลำบากและมีเรื่องกฎหมายที่ต้อง
ดูให้ดี เพื่อที่ให้ทั้งเราและเจ้าหนี้ไม่มีใครเสียประโยชน์
รีไฟแนนซ์
วิธีการนี้เหมาะสำหรับสินเชื่อบ้าน โดยการรีไฟแนนซ์หมาย
ถึงการเปลี่ยนธนาคารในการผ่อนชำระช่วยให้ดอกเบี้ยลดลง อีกทั้งสามารถ
ขอเพิ่มวงเงินในการกู้ได้อีกด้วย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงิน)
และสามารถนำเงินส่วนที่เพิ่มนี้มาช่วยในการชำระหนี้ระยะที่สั้นได้เร็วขึ้น
จะเห็นได้ว่า เป็นอีกหนึ่งบทความดีๆที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการปลดหนี้สินของเราด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก แค่เราทำตามขั้นตอน และวางแผนการเงินของเราให้ดี เรื่องหนี้สินก็จัดการได้ง่าย และเป็นไปตามที่เราวางแผน หากใครที่อยากรู้วิธีปลดหนี้สิน สามารถดูวิธีการดังกล่าวได้นะคะ