ชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากมาย สำหรับ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นางงามจักรวาลชาวไทย คนที่ 37 ของเวทีมิสยูนิเวิร์ส ที่หลายคนอาจจะรู้จักและคุ้นเคยกันดี ปัจจุบันปุ้ยได้แต่งงานสร้างครอบครัวกับ เฮิร์บ ไซมอน อายุ 87 ปี นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกันสายยิว มีลูกด้วยกัน 2 คน วันนี้เราจะพาทุกคนไปชมคฤหาสน์ 1,000 ล้านของสาว ปุ๋ย กันค่ะ
เรียกได้ว่าเมื่อก่อนหลายๆคนอาจจะรู้จัก เธอคนนี้ที่เป็นนางงามจักรวาลชาวไทย คนที่ 37 ของเวทีมิสยูนิเวิร์ส ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ วัย 54 ปี แต่งงานกับ เฮิร์บ ไซมอน อายุ 87 ปี นักธุรกิจมหาเศรษฐีชาวอเมริกันสายยิว นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เมื่อปี 2545 จากนั้นใช้ชีวิตอยู่ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา
มีลูกด้วยกันสองคน คนโต ฌอน ลูกชาย อายุ 19 ปี และโซฟี ลูกสาว อายุ 12 ปี และมีลูกสาวบุญธรรม ชื่อ แจ๊กเกอลีน เป็นพี่คนโตของน้องๆ คฤหาสน์สุดหรูของคุณ ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ที่มีมูลค่ากว่า 38 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 1,200 ล้าน
โดยคฤหาสน์ของเธอมีพื้นที่กว่า 3.5 ไร่ ตั้งอยู่ย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาบ้านหลังนี้เคยเป็นที่พักอาศัยของ นายไมเคิล คิง มหาเศรษฐีวงการโทรทัศน์ และมีพื้นที่ใช้สอยถึง 5,600 ตารางเมตร
ประกอบด้วย 7 ห้องนอน 13 ห้องน้ำ ห้องเล่นเกมส์ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่โดยบ้านหลังนี้ยังได้ นายไมเคิล สมิธ ผู้ออกแบบการตกแต่งภายในของทำเนียบขาวมาช่วยดูแลให้อีกด้วย
คฤหาสน์หลังนี้ตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดตาสไตล์จอร์เจีย ห้องโถงกลางขนาดใหญ่ ถูกตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิคโล่งโปร่งสบาย ส่วนห้องนั่งเล่นนั้นตกแต่งด้วยเตาผิงขนาดใหญ่ อีกทั้งพื้นไม้มะฮอกกานีสีเข้ม ยิ่งทำให้บ้านหลังนี้น่าอยู่ขึ้นอีกเป็นกอง
แต่ล่าสุด ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ต้องอพยพออกจากบ้านพักสุดหรูรัฐแคลิฟอร์เนียเนื่องจากเหตุทางธรรมชาติที่ยังไปอย่างต่อเนื่อง ระบุเจ้าหน้าที่มาเคาะประตูบ้านให้หนีโดยด่วน เผยสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สุขภาพ เพื่อน และความทรงจำในหัวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก อดีตมิสยูนิเวิร์สชาวไทย ซึ่งขณะนี้อาศัยอยู่ที่เมืองมอนเตซีโต รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
โพสต์ภาพและข้อความผ่านอินสตาแกรม มีใจความสำคัญว่า “เราถูกสั่งให้อwยพออกจากบ้านในมอนเตซิโต ขอให้เพื่อนๆ ที่อยู่อาศัยในที่แห่งนี้และเจ้าหน้าทีปลอดภัย และต่อมาเธอได้โพสต์ภาพและข้อความว่า “ขอบคุณเพื่อนรักทุกคนสำหรับกำลังใจ พวกเราทั้งหมดปลอดภัย โชคไม่ดีที่บ้านของพวกเราในซานตาบาร์
