หากพูดถึงนักร้องสายฮาของวงการเพลงลูกทุ่งแถวบ้านเรา หนึ่งในนั้นก็คงพ้น ก้อง ห้วยไร่ เจ้าของผลงานเพลงดังมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเพลง คู่คอง และเมื่อไม่นานมานี้จะเห็นว่าหนุ่มก้อง ยอมให้นำเพลงของตนเอง ใช้หากินได้ โดยไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ต้องบอกเลยว่าหล่อ ใจดี และไม่ถือตัวจริงๆ และวันนี้เราจะพาไปชมบ้านของหนุ่มก้องกันค่ะ บอกเลยว่าร่มรื่น น่าอยู่มาก
แม้จะกลายเป็นนักร้องที่โด่งดังมีชื่อเสียงแล้ว แต่ ‘ก้อง ห้วยไร่’ หรือ ‘อัครเดช ยอดจำปา’ ก็ไม่เคยถือตัวและยังใช้ชีวิตแบบบ้าน ๆ ด้วยการปลูกข้าวทำนา
ในวันที่ไม่มีงานคอนเสิร์ต แถมยังกินอยู่อย่างพอเพียง ทั้งๆที่รายได้จากการร้องเพลงและการแสดงคอนเสิร์ตของเขามีมากมาย นี่ยังไม่นับรวมรายได้
จากการเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงของเขาตามที่ต่าง ๆ นำไปเปิด ซึ่งหากลองคิดคำนวณดูคงได้เงินเป็นจำนวนมหาศาล
โดย ‘ก้อง’ ระบุว่า “ศิลปิน วงดนตรี ร้านอาหาร สามารถใช้เพลงของ ‘ก้อง ห้วยไร่’ และ ‘ฐา ขนิษ’ ในการ ร้องคาราโอเกะ เล่นสด หรือเปิด ได้ โดยไม่เก็บลิขสิทธิ์ใด ๆ
รัก ยิ่งลำบาก ยิ่งต้องเห็นใจกันเด้อ ค่ายใหญ่ องค์กรใหญ่ มันเป็นรายได้ที่เขาสมควรได้รับนะครับอย่าเอาไปเปรียบกันแต่ด้วยความที่ผมไม่มีค่ายเพลง
องค์กรเล็ก เลยสามารถแบ่งปันให้พี่น้องศิลปินได้ไปทำมาหากินกันได้โดยที่ตัวเองไม่ได้รับผลกระทบมาก เป็นผลดีด้วยซ้ำ รักครับ”
อีกทั้งก่อนหน้านี้ เจ้าตัวก็ได้เปิดตลาดช่วยเหลือชาวบ้านอีกด้วย “อาจเป็นแค่ตลาด ร้านอาหารสำหรับทุกท่าน แต่สำหรับผมมันคือโรงงานแห่งความหวัง
ที่เอาไว้รองรับคนตกงานได้มีงานทำ ได้มีแรงสู้อีกครั้ง ลูกหลานผมมีงานทำและมีรายได้ที่เกิดจากการทำงาน คนในหมู่บ้านได้งานรายวัน
ทั้งก่อสร้าง เก็บขยะ ล้างห้องน้ำ รับรถ นำของป่ามาฝากขาย ส่วนผมได้สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้คนในครอบครัวและชุมชน
เนื่องด้วยผม อยากจะให้พี่น้องที่ไม่มีพื้นที่หารายได้ มาใช้พื้นที่ตรงนี้ก็หวังว่าจะมีคนมาตลาดเราเยอะนะครับ แต่สุดท้ายแล้วต้องเข้าใจกันและกัน
ว่าสถานการณ์แบบนี้เราไม่ความแน่ชัดว่าจะมีคนมามากน้อยเท่าไร แต่ขอให้มันเป็นพื้นที่แห่งความสุขที่พวกเราจะมาเจอกันนะครับ”
ขึ้นชื่อว่าเป็นนักร้องที่ใจบุญ หลาปีก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เคยทำนา เพื่อนำข้าวที่ได้ไปแจกจ่ายให้ประชาชนอีกด้วย โดยเจ้าตัวเคยโพสต์ว่า
“หลายปีแล้วที่ข้าวในนาผมกว่า 30 ไร่ ถูกทำขึ้นเพื่อส่งต่อให้เพื่อนมนุษย์ และยังจะทำต่อ ๆ ไป
ผมจะสีข้าวจ้าว 2,000 กิโลกรัม เพื่อนำไปส่งต่อให้กับครอบครัวอื่นหรือประชาชนที่ไม่ได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนา”
ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่น่าชื่นชมมากเลยทีเดียวสำหรับ ‘ก้อง ห้วยไร่’ เพราะเจ้าตัวเองก็เคยผ่านจุดที่ไม่มีมาก่อนเหมือนกันเมื่อมีโอกาสจึงอยากแบ่งปันให้คนอื่น
