หากย้อนกลับไปในอดีต เชื่อว่าหลายคนยังคงจำวงดนตรีชื่อดังในตำนานอย่าง วงโปงลางสะออน ได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเคยเป็นวงดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังและสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งหากใครได้ติดตาม จะรู้จักกับสมาชิกในวงดนตรีนี้ได้เป็นอย่างดี และในวันนี้เราจะพาส่องชีวิตปัจจุบันของ อี๊ด โปงลางสะออน ซึ่งเป็นหัวหน้าวงกันค่ะ
ยาวนานถึง 2 ปี แต่ยังไม่คืบหน้ากับโปรเจกต์ขยับขยายบ้านเพื่อลองรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นของนักร้องมากความสามารถ
‘อี๊ด โปงลางสะออน’ ที่ได้สั่งทุบบ้านหลังใหม่ราคาแพงทิ้ง เพื่อจะทำการสร้างตัวบ้านใหม่ให้ถูกใจ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
อยากได้พื้นที่ตรงนี้ เพราะใกล้กับบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน แต่ตัวบ้านมีขนาดเล็กเลยอยากจะสร้างใหม่
ลูกชายฉายแววเป็นศิลปินตั้งแต่เด็ก ด้านเจ้าตัวไม่ติดพร้อมสนับสนุน แย้มอยากมีลูกคนที่ 2 หากภรรยาพร้อม
ทำเอาหลายคนตกใจ ‘อี๊ด โปงลางสะออน’ หลังได้ซื้อบ้านหลังใหม่เป็นของขวัญให้ลูกชาย แต่พอซื้อบ้านปุ๊บ
กลับทุบบ้านทิ้งซะอย่างงั้น งานนี้ได้มาไขข้อข้องใจ คือ สองปีที่แล้วผมกำลังหาบ้านอีกหลังหนึ่ง เพราะเรามีบ้านหลังหนึ่งอยู่แล้ว
แต่หลังนั้นอยู่กับน้องสาวและน้องเขย แต่พอจะมีลูกชายก็เลยอยากจะหาบ้านอีกหลังหนึ่งจะได้ให้เขาอยู่มีห้องพิเศษต่างๆ
พอซื้อปุ๊บผมก็ทุบเลยด้วยความรีบร้อนอยากสร้างใหม่แบบที่เราอยากได้ แล้วทำไมไม่หาซื้อที่ดินเปล่า จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดายเงิน
เพราะบ้านเขาสร้างอยู่แล้ว ไปทุบอีกก็ต้องเสียเงินอีก เราแค่อยากอยู่ใกล้กับบ้านหลังเดิม เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่เราซื้อบ้านไว้ก่อน
แล้วบ้านหลังนี้ก็ไม่เคยมีใครเข้ามาอยู่เลยก็เลยซื้อและสร้างแบบที่เราอยากได้ พอทุบเสร็จเกือบสองปีแล้วก็ยังไม่ได้สร้างเลย
ตอนนี้ก็เลยจะสร้างใหม่อีกรอบหนึ่ง คุยกับภรรยาว่าหรือเราจะขายตรงนี้แล้วไปซื้อข้างนอกไปเลย แต่ตอนนี้ยังหาซื้อข้างนอกยังไม่ได้
ตอนนี้เลยอยู่ในระหว่างของการทำแบบใหม่ คือพื้นที่เกือบ 100 ตารางวาเราก็เลยลุยกันต่อเลยดีกว่า แต่ถ้ามีคนติดต่อมาแล้วได้ราคาก็ขายได้
แล้วทำไมถึงมีความเปลี่ยนใจอยากจะทุบแล้วสร้าง หรืออยากจะไปซื้อใหม่ อยากจะทุบแล้วสร้างก็เพราะอยากจะสร้างในแบบที่เราอยากได้
ก่อนหน้า ‘อี๊ด โปงลางสะออน’ ได้กลับบ้านเกิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ในรอบ 3 ปี เผยว่าซื้อที่ดินไว้เกือบ 100 ไร่ ให้พ่อดูแล ไว้ทำไร่ทำนา เลี้ยงวัว
เเละอยากจะขายที่ดิน 50-60 ไร่ เพราะพ่อดูแลคนเดียว จะดูแลไม่ไหว พ่ออยู่ที่กาฬสินธุ์คนเดียวท่านชอบชีวิตบ้านๆ ไม่อยากเข้าไปอยู่ในเมืองกรุง
