เป็นอีกหนึ่งดาราหนังไทยในอดีตที่โด่งดังมากๆ สำหรับ บุศรา นฤมิตร หรือ ลัดดา ศรีประไพ เจ้าของบท “อังศุมาลิน” คนแรกของไทย สำหรับใครที่ติดตาม ก็จะรู้ว่าปัจจุบัน บุศรา ในวัย 81 ปี ได้สูญเสียสามีอันเป็นที่รักอย่าง อดุลย์ ดุลยรัตน์ เธอที่ยังแข็งแรง ใช้ชีวิตอยู่กับลูกๆหลานๆ และที่สำคัญยังคงสวยไม่แพ้ในอดีต ว่าแล้วเราตามไปส่องภาพล่าสุดของเธอกันค่ะ
บุศรา นฤมิตร หรือ “อังศุมาลิน” คนแรกของบ้านเรา แสดงคู่กับมีชัย วีระไวทยะ ในบท “โกโบริ” จากละครโทรทัศน์เรื่อง
คู่กรรม ปี 2513 ชื่อจริง ลัดดา ศรีประไพ ชื่อเล่น เล็ก เกิดวันที่ 22 ตุลาคม2484 หนังเรื่องแรก ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเก้า
เล่นเป็นนางเอกหลายเรื่องอาทิเช่น บางปะกง, ทับทิม, อำนาจมืด, ผู้ใหญ่ลี, กัปตันเครียว ฉลามเหล็ก, อื่นๆอีกมากมาย
ได้รับรางวัลตุ๊กตาเงินรางวัลพิเศษสำหรับผู้แสดงบทบาทพิเศษดีเยี่ยม จาก ทับทิม ร่วมแสดงโดยฤทธี นฤบาล บุศราแสดงเป็นหญิงไม่สามารถพูดได้
ชื่อ ทับทิม ซึ่งมีชีวิตสุดเเสนรันทด ถูกคนอื่นๆทำย่ำยีตลอดเรื่อง และก็ผลจากเรื่องนี้ทำให้บุศราได้รับบทผู้หญิงที่น่าสงสารมาตลอด
ในตอนปี 2500-2505 นางเอกหนังไทยจะมีจำนวนมากหลายๆคนอาทิเช่น อมรา อัศวนนท์, เกศริน ปัทมวรรณ, รสริน วิลาวัลย์, อื่นๆอีกมากมาย
บุศราก็เป็นหนึ่งในนางเอกด้วย พอปี 2505 เพชรา เชาวราษฎร์ไปสู่วงการและก็กลายเป็นนางเอกที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งยิ่งได้พระเอกคู่ขวัญอย่าง มิตร ชัยบัญชา นางเอกคนอื่นและบุศราก็ค่อยๆเปลี่ยนบทบาทไปรับบทบาทตัวรองหรือเลิกแสดงไปเลย
ด้วยบุคลิกที่มองเรียบร้อย อ่อนหวาน บุศราก็เลยมีชื่อเสียงมากจากการรับบทบาทแม่ที่น่าสงสารของนางเอก เรียกว่าเป็นดาราเจ้าน้ำตาอีกคน
อาทิเช่น ไทรโศก, ดาวพระศุกร์, มือนาง, ลูกปลา, สายชล ในขณะที่ในจอเงินนั้นบุศราบางทีอาจจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นบทแม่ แต่ว่าในจอแก้ว
เธอคือนางเอกละครโทรทัศน์อันดับหนึ่งในตอนนั้น ในสมัยที่ดาราหนังกับดาราทีวีจะแยกกันเด็ดขาด มีดาราหนังหลายๆคน
สามารถแสดงได้ทั้งสองจอ ชุมพร เทพพิทักษ์ และก็รุจน์ รณภพ เป็นพระเอกละครโทรทัศน์หลายเรื่อง และก็นางเอกละครโทรทัศน์
ที่มาจากจอเงินก็มีกิ่งดาว ดารณี และก็ บุศรา นฤมิตร ทั้ง 4 คนนี้มีงานแสดงละครโทรทัศน์บ่อยๆแล้วก็ยาวนาน คู่ชีวิตของบุศรา นฤมิตร
เป็นสมัยก่อนพระเอกเนื้อหอมของบ้านเราเช่นกันคือ อดุลย์ ดุลยรัตน์ (ปัจจุบันนี้เสียชีวิตแล้ว)ทั้งคู่พบรักกันในกองถ่ายทำหนังเรื่อง
ดรุณีสีเลือด (2509) ของ ส.อาสนจินดา ซึ่งมีการยกกองไปถ่ายทำกันที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย ทำให้ต้นรักของอดุลย์-บุศรางอกงาม