เปิดชีวิต “บุ๋ม รัญญา” กับการทำงานเบื้องหลัง

ทำงานตั้งแต่เบื้องหน้าจนสู่เบื้องหลังกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าอยู่ในวงการมานานมากๆแล้ว สำหรับ บุ๋ม รัญญา ดารานักแสดงสาวสวยรุ่นใหญ่ที่โด่งดังมีชื่อเสียงจากบทบาทนางเอก ส่งผลงานมีชื่อเสียงให้ติดตามมากมายเลย ก่อนจะผันตัวไปเป็นผู้จัดการหรือผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปส่องชีวิตปัจจุบันของคุณบุ๋มกันค่ะ เรียบง่ายไม่ออกสื่อ

จากงานแสดงเบื้องหน้า ที่พร่ำบอกตนเองอยู่เสมอว่า ทำไปเพราะว่าเงิน และไม่ใช่สิ่งที่ชอบเลยสักนิด แต่เป็นสิ่งที่คุณทำได้ดีที่สุด ด้วยความสามารถ บวกกับความตั้งใจ แล้วก็พรสวรรค์

ตอนนี้กลายเป็นอาชีพที่เธอรักโดยไม่รู้ตัว ต่อด้วยการเป็นแอ๊กติ้งโค้ช คนที่มาช่วยเสริมกองทัพให้ละครสมบูรณ์แบบเพิ่มขึ้น รวมทั้งอีกก้าวสำคัญกับการเป็นผู้กำกับการแสดง

ก่อนเป็นนักแสดงเจ้าหน้าที่ จริงๆไม่ชอบ ไม่ได้อยากเป็นดาราเลยนะคะ ต้องการเป็นพยาบาล แต่แม่ให้หยุดเรียนปีหนึ่ง ก็น้อยใจเสียใจแล้วแม่ก็พูดว่าโรงเรียนการแสดงช่อง 3 เขาเปิดสอนฟรี ต้องการให้เราไปเรียน ย้ำนะคะว่าเรียนฟรีไม่เสียเลยสักบาท แต่ว่าใจเราไม่อยากไปเรียนเลย

เพราะเราไม่ได้อยากเป็นดารา จะให้ไปเรียนทำไม ไม่รู้เรื่อง แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร ก็เลยไปค่ะ แล้วพอดิบพอดีว่าได้ตังค์ด้วย เพราะจะมีโมเดลลิ่งติดต่อให้ไปงานนู่นนี่นั่น อีเว้นท์ถ่ายแบบเดินแบบ เมื่อ 30 ปีที่แล้วได้วันละพัน นี่ไม่น้อยนะคะ เราก็เลยไปต่อจากนั้นก็ศึกษาต่อไปเรื่อย

ผลงานแจ้งเกิด เรื่อง นางเอก เลยค่ะ และก็ได้เป็นนางเอกของพี่ไก่อยู่ประมาณ 2-3 เรื่อง ไปเล่นรัชฟิล์มก็ยังเป็นนางเอกอยู่ เล่นนางเอกสลับกับนางร้ายไปเรื่อย บางทีก็เล่นเป็นตัวตลก เราไม่ได้ยึดติดกับบทนางเอก พี่ไก่สอนมาแบบนี้ แล้วบุ๋มเองก็ไม่ได้คิดเลยว่าฉันต้องเป็นนางเอก แต่ว่าคิดเพียงแค่ว่ามันเป็นอาชีพ

ที่เล่นละครเรื่องไหนต้องทำงานเรื่องนั้น และก็ต้องได้รายได้ เป็นทำทุกอย่าง บทไหนก็เล่น หนังก็เล่นด้วยค่ะ ของไฟว์สตาร์ เล่นของ อารุจน์ รณภพ โน่นก็ดังอีกเหมือนกัน เล่นเป็นบทคนใช้ที่ได้กับเจ้านาย คือ พี่แซม ยุรนันท์ เรื่อง ดงดอกไม้

จากเบื้องหน้าสู่งานเบื้องหลัง บุ๋มเริ่มจากการเป็นแอ๊กติ้งโค้ชจ้ะโดย พี่มยุรฉัตร ส่งเด็กมาให้ช่วยมองหมายถึงแอฟ ทักษอร และก็ ลดา เองชวะเดชาศิลป์ ตอนนั้นพี่มยุรฉัตรจะทำเรื่องริษยา นานมากแล้วค่ะ เกือบจะ 20 ปีแล้ว นั่นเป็นงานแรกที่ทำ พอเริ่มงานนั้นปุ๊บก็เหมือนมีมาเรื่อยๆแล้วสมัยนั้นจะมีดาราเพิ่มเข้ามาเยอะแยะ

นักแสดงส่วนมากจะเล่นละครไม่เป็น บางทีผู้กำกับบางทีอาจจะดูแอ๊กติ้งไม่ทั่ว เขาก็เลยเอาแอ๊กติ้งโค้ชเข้าไปช่วย เลยเริ่มมีอาชีพแอ๊กติ้งโค้ชประจำกองต่างๆทำมาเรื่อย

รวมทั้งที่หนักๆเลยคือมาทำให้กับกองพี่ไก่ แทบทุกเรื่องเลย เหนื่อยไหม ไม่เหนื่อยเลยนะ ชอบที่สุด เพราะว่าหนึ่งเราได้เปรียบคนอื่น เพราะว่าเราเรียนมาสองเราเป็นนักแสดง เราจะเข้าใจวิถีของผู้แสดงร่วมกันว่าเขาต้องการรู้แบบไหน และก็อธิบายแบบไหนให้เขาเข้าใจมากที่สุด ก็เลยชอบ